เมื่อเจ้าหน้าที่องค์กรช่วยเหลือสัตว์ Mitchell County Animal Rescue , Inc ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์ว่าพบเจอสุนัข ( ตัวเมีย ) ตัวหนึ่งที่กำลังหวาดกลัวใกล้ๆทางด่วน พวกเขาเข้าใจว่าเธอน่าจะวิ่งหนีเนื่องจากตกใจจากเสียงดอกไม้ไฟเมื่อคืนก่อน แต่พวกเขาได้คาดคิดมาก่อนว่าสุนัขที่พวกเขาเชพบเจอนั้นจะเป็น “ สุนัขสูญหาย “ มานานเป็นเดือนๆ
เมื่อคืนก่อน สามีภรรยาพลเมืองดีคู่หนึ่งกำลังชมการแสดงดอกไม้ไฟแล้วได้เห็นเงาของสัตว์ตัวหนึ่งวิ่งวนไปรอบๆรถของพวกเขาแล้วรีบเข้าไปหลบอยู่ใต้ท้องรถ “ ตอนแรกเรานึกว่าเธอเป็น สุนัขจิ้งจอก “ มาริลิน วิลเลี่ยม หนึ่งในพลเมืองดีคู่นี้ได้เล่าให้ทาง The Dodo ฟัง
ไม่นานนักพวกเขาก็พบว่าสัตว์ที่หลงมาหลบใต้ท้องรถนั้น คือ สุนัข พอมองตาก็รู้ว่าเธอต้องการความช่วยเหลือ “ ดูเหมือนว่าเธอจะกลัวมากค่ะ “ เธอเล่า
ในตอนแรกเจ้าตูบไม่ยอมออกมาจากใต้ท้องรถ แต่คู่สามีภรรยาพยายามดึงดันจนในที่สุดสุนัขตัวนี้ก็พุ่งออกมาจากใต้ท้องรถแล้วแล้วกระโดดเข้าไปในรถทางประตูที่นั่งคนขับแล้วหลบอย่างปลอดภัย
มาริลินและสามีของเธอนำพาเจ้าตูบกลับบ้านไปค้างคืน พวกเขาได้ให้อาหาร น้ำ และ ล้างบาดแผลบนในหน้า แม้จะอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้เจ้าตูบก็ยังคงดูสงบเสงี่ยมอย่างไม่น่าเชื่อ
“ เธอดูเงียบสงบและขี้อาย ไม่เคยเห่าหรือส่งเสียงเลยสักครั้ง “ มาริลินเล่าต่อ
หลังจากตื่นนอนจากค่ำคืนอันแสนสบาย คู่สามีภรรยาได้โทรศัพท์ไปทางศูนย์พักพิง Mitchell Country Animal Shelter แล้วได้พาเจ้าตูบนี้ไปโดยหวังว่าจะได้พบเจอเจ้าของเธอที่นั่น
ทันทีที่เจ้าหน้าที่ในศูนย์พักพิงชายตามองดูเจ้าตูบนี้พวกเขาก็จำได้ทันทีว่าเธอชื่อ “ ฟีโอน่า “ สุนัขแก่ที่สูญหายเมื่อ 1 เดือนก่อนในระหว่างที่ออกไปพักผ่อนในวันหยุดกับครอบครัว แถมยังมีโปสเตอร์ประกาศตามหาเธออยู่ที่ประตูหน้าด้วย
เหล่าพนักงานได้ทำการตรวจเช็คแล้วยืนยันตัวตนของฟีโอน่าด้วยการสแกนไมโครชิพแล้วโทรเรียกเจ้าของเธอ ( คุณแม่ ) เพื่อแจ้งข่าวดี เจ้าตูบฟีโอน่าซึ่งแต่เดิมเอาแต่เงียบตั้งแต่อยู่ในบ้านของคู่สามีภรรยาจนกระทั่งมา “ หูตั้ง “ เด่เป็นครั้งแรกเมื่อเจ้าของเธอย่างเท้าก้าวผ่านประตูเข้ามา
เมื่อฟีโอน่าได้เห็นหน้าเจ้าของเธอก็ “ กระดิกหาง “ ไม่หยุดเลย แล้วนี่ก็คือคลิปตอนที่ฟีโอน่าได้เจอเจ้าของเธอ ( ไม่สามารถแชร์ลงโดยตรงได้ในนี้เลยได้แต่ส่งลิงค์ให้แทน )
https://www.facebook.com/watch/?v=762292488236353
ตอนนี้เจ้าตูบฟีโอน่าได้กลับบ้านเจ้าไปอยู่กับเจ้าของเธอและครอบครัวอย่างปลอดภัย แม้ว่ามาริลินและครอบครัวเธอจะรู้สึกคิดถึงเจ้าตูบน้อยที่พวกเขาได้ช่วยชีวิตไว้ในคืนนั้น แต่พวกเขาก็มีความสุขที่รู้ว่าฟีโอน่าได้กลับสู่อ้อมอกครอบครัวที่แท้จริงของเธอแล้ว
“ มันเป็นฉากจบที่มีความสุขของเรื่องราวที่แสนวิเศษนี้ค่ะ “ มาริลิน กล่าว
แปลจากบทความโดย Ashley Ortiz ที่ลงใน The Dodo เมื่อวันที่ 27 กรกฏาคม 2022